สหรัฐฯ และยุโรปขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ตอบโต้การบิดเบือนการแข่งขัน

สหรัฐฯ และยุโรปขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ตอบโต้การบิดเบือนการแข่งขัน

วอชิงตัน/บรัสเซลส์ – สหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป (EU) ได้ประกาศ ขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีน เพื่อตอบโต้ การบิดเบือนการแข่งขันจากนโยบายเงินอุดหนุนของรัฐบาลจีน ที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนสามารถจำหน่ายในราคาที่ต่ำกว่าตลาดโลก

สหรัฐฯ เพิ่มภาษีสูงสุด 100% เพื่อสกัดการแข่งขันจากจีน

รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีน จาก 25% เป็น 100% ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการปกป้องอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระบุว่า การขึ้นภาษีครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อรับมือกับ การทุ่มตลาดของจีน ที่ได้รับเงินอุดหนุนจำนวนมากจากรัฐบาล ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าของจีนสามารถแข่งขันได้ด้วยราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งในอเมริกา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศ เช่น Tesla, General Motors และ Ford

สหภาพยุโรปปรับขึ้นภาษีสูงสุด 38%

ขณะเดียวกัน สหภาพยุโรปก็ได้มีมติขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีน สูงสุดถึง 38% หลังจากคณะกรรมาธิการยุโรปทำการสอบสวนและพบว่า บริษัทจีนได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลในระดับที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งส่งผลให้รถยนต์จีนสามารถเข้ามาตีตลาดยุโรปด้วยราคาที่ถูกกว่ารถยนต์ที่ผลิตในท้องถิ่น

มาตรการนี้ส่งผลโดยตรงต่อบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของจีน เช่น BYD, NIO และ XPeng ซึ่งกำลังขยายตลาดในยุโรปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในประเทศเยอรมนี ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์

จีนตอบโต้ มองว่านโยบายนี้เป็นการกีดกันทางการค้า

ทางด้านรัฐบาลจีนออกมาประณามมาตรการของสหรัฐฯ และยุโรป โดยกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า การขึ้นภาษีครั้งนี้เป็นการกีดกันทางการค้า และอาจละเมิดกฎขององค์การการค้าโลก (WTO)

จีนยังเตือนว่าอาจใช้มาตรการตอบโต้ เช่น การเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากยุโรปและสหรัฐฯ หรือออกข้อจำกัดในการส่งออกวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เช่น ลิเธียมและโคบอลต์ ซึ่งจีนเป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์รายใหญ่ของโลก

ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์และตลาดโลก

นักวิเคราะห์มองว่า การขึ้นภาษีครั้งนี้อาจ กระทบต่อราคารถยนต์ไฟฟ้าในตลาดตะวันตก ทำให้ผู้บริโภคต้องจ่ายแพงขึ้น และอาจชะลอการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานสะอาด

ขณะเดียวกัน บริษัทรถยนต์จีนอาจเร่ง ขยายการลงทุนในโรงงานผลิตนอกประเทศจีน เช่น ในเม็กซิโกหรือยุโรปตะวันออก เพื่อลดผลกระทบจากภาษีนำเข้า และยังสามารถใช้ช่องทางการค้าเสรีเพื่อเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ และยุโรปได้

แนวโน้มสงครามการค้าที่ยืดเยื้อ

มาตรการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ และยุโรปสะท้อนให้เห็นถึง ความตึงเครียดทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนกับชาติตะวันตก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์อย่างรถยนต์ไฟฟ้า

แม้จะมีมาตรการภาษีที่เข้มงวดขึ้น แต่จีนยังคงเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก และอาจใช้กลยุทธ์ปรับลดต้นทุนหรือหาตลาดใหม่ในประเทศกำลังพัฒนาเพื่อลดผลกระทบจากมาตรการของชาติตะวันตก

การตอบโต้ของจีนและท่าทีของประเทศอื่น ๆ ต่อประเด็นนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตามองในช่วงต่อไป ซึ่งอาจนำไปสู่สงครามการค้าที่รุนแรงยิ่งขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีสีเขียว